ทุกๆท่านรู้สึกพึงพอใจกับค่าบริการรายเดือนของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ใช้อยู่ไหมครับ นอกเหนือจากค่าบริการรายเดือน ขั้นต่ำประมาณเดือนละ 7-8พันเยนแล้ว นอกเหนือจากนี้ยังมีค่าโทรศัพท์เพิ่มขึ้นมา จึงทำให้ค่าบริการต่อเดือนนั้นเกิน 1หมื่นเยนได้อย่างง่ายดาย สำหรับท่านที่ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเพื่อทำงาน ความบันเทิง หรืออำนวยความสะดวกต่างๆตลอดวันนั้น ปัญหาสำคัญ คือ “ทำอย่างไรให้ค่าบริการรายเดือนถูกที่สุด” และน่าจะมีหลายท่านที่กำลังหาคำตอบเกี่ยวกับปัญหานี้อยู่
สำหรับท่านที่มีความต้องการในลักษณะนี้ เราแนะนำให้ใช้ “ซิมการ์ด” ซึ่งราคาถูกและเรียกได้ว่าเป็นส่งที่ขาดไม่ได้ในสมัยนี้ ตั้งแต่มีกฎหมายบังคับให้ผู้ให้บริการเครือข่ายทำการปลดล็อคซิมการ์ดที่อุปกรณ์ต่างๆ เช่นสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เมื่อไม่กี่ปีก่อน นอกเหนือจากผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่แล้ว ยังมีผู้ให้บริการรายอื่นๆ ที่ลงแข่งขันในกิจการ MVNO และจำหน่ายซิมการ์ดประเภทต่างๆ เช่นประเภทเติมเงิน และประเภทราคาถูก เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซิมการ์ดเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย และขาดไม่ได้ ถ้าต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการใช้อินเตอร์เน็ตอย่างมีความเสถียรภาพในชีวิตประจำวัน และจำนวนผู้ใช้ซิมการ์ดนั้นมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในบทความนี้เราจะเริ่มต้นด้วยการแนะนำข้อมูลต่างๆที่ควรรู้ไว้ล่วงหน้า และตอบข้อสงสัยต่างๆ สำหรับผู้ที่กำลังคิดจะซื้อซิมการ์ดมาใช้งาน
ซิมการ์ดใช้กับสมาร์ทโฟนใหม่ได้ไหม ซิมล็อค? ความเร็ว?
อาจมีหลายท่านที่เคยได้ยินคำว่า “
ซิมการ์ด” ผ่านหูมาบ้าง แต่ไม่ค่อยรู้ว่าหมายถึงอะไร และ/หรือไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะฉะนั้นก่อนอื่นเราจะอธิบายว่าซิมการ์ดคืออะไร สามารถใช้กับสมาร์ทโฟนที่มีอยู่ได้หรือไม่ และอธิบายเกี่ยวกับคำว่า “
ซิมฟรี” และ “
ซิมล็อค” ไปพร้อมๆกัน
-
ซิมการ์ดใช้ได้กับอะไรบ้าง?
ในกรณีเกิดปัญหากับสมาร์ทโฟนของเราระหว่างการใช้งาน โดยปรกติแล้วเราจะติดต่อขอความช่วยเหลือที่ผู้ให้บริการเครือข่ายที่เราทำสัญญาด้วย ผ่านทางหน้าร้าน หรือทางคอลเซ็นเตอร์ และคนส่วนมากน่าจะเคยได้ยินคำว่า “
ซิมการ์ด” จากการสนทนานี้ ซิมการ์ดนั้นคือชื่อเรียกของ IC Chip ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้สมาร์ทโฟนสามารถรับส่งข้อมูล และโทรศัพท์ได้ โดยปรกติแล้วทางผู้ให้บริการเครือข่ายจะให้ยืม (หรือมอบให้) เมื่อทำสัญญาบริการเสร็จสิ้น สำหรับซิมการ์ดขนาดใหญ่ที่สุดที่วางขายอยู่ ณ ปัจจุบัน มีขนาด 15mmX25mm หรือประมาณเหรียญ 1 เยน ซิมการ์ดที่ทั้งเล็กทั้งบางนี้ จะมีรหัส ID ประจำตัว และเมื่อถูกนำไปใส่ในสมาร์ทโฟนหรือมือถือแบบพับได้แล้วจะมีฟังก์ชันที่ทำให้สามารถระบุเจ้าของโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นได้ และใน IC Chip ของซิมการ์ดนั้นจะมีข้อมูล เช่น หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ บันทึกไว้ ซึ่งแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของซิมการ์ด
pocket wifi ญี่ปุ่น
pocket wifi japan
เช่า wifi ญี่ปุ่น
sim ญี่ปุ่น
sim japan